1 เมษายน 2558

วิธีการเลือกซื้อเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า

บริษัท สุพรีมไลนส์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ Kyoritsu เช่น มัลติมิเตอร์ Multimeter, อนาล็อคมัลติมิเตอร์ Analogue Multimeter, ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ Digital Multimeter, แคล้มป์มิเตอร์ Clamp Meter, อนาล็อคแคล้มป์มิเตอร์, ดิจิตอลแคล้มป์มิเตอร์ Insulation Tester, มิเตอร์สอบความต้านทานลูป, มิเตอร์ทดสอบเอนกประสงค์, เครื่องวัดค่าความต้านทานดิน, เครื่องวัดพลังงานไฟฟ้า, เครื่องทดสอบสถานะทางเฟสไฟฟ้า, แคล้มป์อแดปเตอร์

วิธีการเลือกซื้อเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า

การเลือกซื้อเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าสักอย่าง สิ่งที่เราควรคำนึงถึงจะต้องประกอบด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น ลักษณะของงานที่ต้องการวัด (ค่าที่ต้องการวัด), ความสะดวกในการใช้งานและลักษณะการติดตั้ง, ช่วงการวัด, ความละเอียดและความแม่นยำของเครื่องวัด, สภาพแวดล้อมของบริเวณที่ใช้งาน, มาตรฐานรับรองคุณภาพและที่สำคัญมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องมือวัดต่อผู้ใช้งาน ซึ่งในบางครั้งผู้ใช้งานอาจจะเป็นแนวทางให้ผู้ใช้ได้ใช้สำหรับพิจารณาการเลือกซื้อเครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับงานจริง เพื่อความประหยัดและเพื่อการใช้งานเครื่องมือวัดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ลักษณะของงานที่ต้องการวัด (ค่าที่ต้องการวัด)

คือ การระบุค่าหรือสิ่งที่ต้องการวัด เช่น แรงดัน, กระแส, อุณหภูมิ, ความต้านทาน, ความถี่ ฯลฯ หลังจากนั้นก็ดูรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการวัดนั้นต่อไปว่าต้องการแบบอนาล็อกหรือดิจิตอลและจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ เช่น เอาต์พุต, การตั้งค่าการแสดงผล, การบันทึกค่าสูงสุด/ต่ำสุด, การรับอินพุตเป็นแบบตรงหรือต้องผ่านอุปกรณ์อื่นๆ เช่น วัดกระแสไฟสลับ อาจต้องใช้ CT (Current Transformer) เป็นอุปกรณ์ต่อร่วม, วัดอุณหภูมิอาจต้องใช้เทอร์มอคัปเปิลในการรับอุณหภูมิซึ่งก็ควรจะคำนึงถึงชนิดและรูปร่างของเทอร์มอคัปเปิลด้วย เพื่อลดค่าความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในการวัดเพราะในงานแต่ละงานความเหมาะสมของเทอร์มอคัปเปิลก้อแตกต่างกันออกไปด้วย
    • ความสะดวกในการใช้งานและลักษณะการติดตั้ง
คือ ความเหมาะสมของประเภทการใช้งาน เช่น ต้องการมิเตอร์ที่วัดค่าต่างๆ เพื่อใช้ในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรในแต่ละที่ที่อยู่ไกลกัน หรือวัดค่าที่ไม่จำเป็นต้องดูค่าตลอดเวลา ก็อาจเลือกมิเตอร์ที่เป็นแบบพกพา(Hand Held) เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ในบางงานเป็นงานที่ต้องการดูค่าตลอดเวลาเพื่อใช้ในการควบคุมหรือการจดบันทึก ก็ควรจะใช้มิเตอร์ที่ติดตั้งอยู่กับที่หรือติดตั้งที่แผงควบคุมที่เราเรียกว่า Panel Meter ในส่วนของงานวัดอุณหภูมิก็มีให้เลือกทั้งแบบสัมผัสและไม่สัมผัสกับวัตถุ ซึ่งการเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่ใช้, ความสะดวกในการติดตั้งหรือความปลอดภัยของผู้ใช้ เช่น วัดบนผิวชิ้นงานธรรมดาก็อาจใช้หัววัดแบบสัมผัสกับชิ้นโดยตรง แต่ในบางงาน เช่น การวัดอุณหภูมิของหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงก็ควรใช้เทอร์มอมิเตอร์แบบอินฟราเรดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เป็นต้น
    • ช่วงการวัดความละเอียดและความแม่นยำของเครื่องวัด
คือ ผู้ใช้จะต้องทราบว่าค่าต่างๆ ที่จะวัดมีค่าอยู่ในช่วงเท่าใด เช่น การวัดไฟฟ้าในสำนักงานทั่งไปแรงดัน 220VAC, วัดไฟ 3 เฟส 380VAC หรือไฟแรงสูงเป็นกิโลโวลต์ ฯลฯ เพื่อใช้ในการเลือกย่านวัดให้ถูกต้องและในการวัดต้องระบุค่าความละเอียดในการอ่านค่า (Resolution) รวมไปถึงค่าความแม่นยำ (Accuracy) ในการวัดด้วย เช่น จ่ายแรงดันที่ต้องการวัด 19.62 V ก็ต้องเลือกมิเตอร์ที่มีความละเอียด 0-01 ถึงจะแสดงผลตามที่ต้องการได้ ส่วนค่าความแม่นยำจะบอกถึงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับค่าที่วัดได้จากเครื่องมือวัด ซึ่งผู้ใช้ควรจะนำมาพิจารณาในการใช้งานด้วยเพื่อให้ได้ค่าในการวัดที่ใกล้เคียงกับค่าจริงมากที่สุด
    • สภาพแวดล้อม
คือ สภาพแวดล้อมที่อาจระบุในรูปของอุณหภูมิและความชื้นระหว่างการใช้งานหรือสภาพแวดล้อม ที่ระบุเป็นอุณหภูมิและความชื้นที่ใช้ในการเก็บรักษาของเครื่องวัดนั้นๆ ซึ่งค่าเหล่านี้ทางผู้ผลิตจะเป็นผู้ระบุมาในคู่มือการใช้งานอยู่แล้ว หรือในบางครั้งอาจระบุในรูปของมาตรฐานการป้องกันที่เราเรียกว่า มาตรฐาน IP ก็ได้ เช่น ในโรงงานหรือกระบวนการผลิตที่เป็นเครื่องจักรควรจะเป็นเครื่องวัดที่ออกแบบให้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิปกติ สภาพความชื้นสูงรวมทั้งทนทานต่อการกระแทกหรือการตกหล่นที่อาจเกิดขึ้นได้
    • มาตรฐานรับรองคุณภาพของเครื่องวัดทางไฟฟ้า
เนื่องจากการใช้งานเครื่องวัดเหล่านี้จะเช้าไปเกี่ยวข้องกับปริมาณทางไฟฟ้าไม่มากก็น้อย ดังนั้น มาตรฐานที่รับรองคุณภาพจากประเทศต่างๆ ก็มีความหมายถึงการผ่านการทดสอบในเครื่องวัดที่เป็นที่ยอรับของประเทศนั้นๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพของเครื่องมือวัดมากยิ่งขึ้น โดยตัวอย่างสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจะแสดงอยู่ที่ หน้า T31
    • มาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องมือวัดต่อผู้ใช้งาน
คือ การป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์หรือเครื่องวัดต่างๆ ดังนั้น ถ้าต้องการวัดหรือใช้ไฟฟ้าในวงจรพลังงานสูง ควรมองหาเครื่องวัดที่มีมาตรฐานความปลอดภัยด้วยโอยมีองค์กรมาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission) เป็นผู้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัย IEC 61010 ไว้ซึ่งแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ไว้ดังนี้ คือ
  • CAT I (Category I) เป็นแรงดันระดับสัญญาณที่มีในอุปกรณ์สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์
  • CAT II (Category II) เป็นแรงดันระดับทั่วไปในบ้านและสำนักงาน คือ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ปลั๊กไฟ เป็นต้น
  • CAT III (Category III) เป็นแรงดันระดับสายส่งไฟฟ้าในอาคารชนิด 1 เฟส หรือ 3 เฟสโดยมีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 1,000 โวลต์
  • CAT IV (Category IV) เป็นแรงดันระดับสายส่ง ไฟฟ้า ที่อยู่นอกอาคารที่เป็น 3 เฟส โดยมีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 1,000 โวลต์

ทางเรามีทีมงานวิศวกรคอยให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้งานทั้งก่อนและหลังการขาย มีสินค้าในสต็อกพร้อมส่งถึงท่านด้วยความเร็ว ยึดหลักการบริการที่รวดเร็ว ราคาประทับใจ ครอบคลุมทุกงานอุตสาหกรรม มีประสิทธิภาพ กำลังการผลิตสูง เชิญชมสินค้าและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kyoritsuthailand.com หรือโทร. 0-2722-2233

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น